หากได้ยินชื่อว่าปารีสแน่นอนว่าหลายคนๆคงนึกถึงหอไอเฟล อาคารสถาปัตยกรรม เมืองแห่งน้ำหอมขึ้นชื่อ และยิ่งไปกว่านั้นปารีสยังถูกสภาปนาว่าเป็นเมืองแห่งวามโรแมนติกอีกด้วย
ปารีส เป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส บนใจกลางแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์ ภายในกรุงปารีสมีประชากรประมาณ 2,167,994 คน เขตเมืองปารีส ซึ่งมีพื้นที่ขยายเกินขอบเขตอำนาจการปกครองของเมืองนั้น มีประชากรกว่า 9.93 ล้านคน (พ.ศ. 2547) ในขณะที่เขตมหานครปารีส มีประชากรเกือบ 12 ล้านคนและเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรสูงที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป

จากการตั้งถิ่นฐานมากว่า 2 พันปี ปัจจุบัน กรุงปารีส เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก และด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศส ด้วยจำนวนเงินกว่า 500.8 ล้านล้านยูโร (628.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมากกว่าหนึ่งส่วนสี่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2548 กรุงปารีสยังเป็นสถานที่ทำการของบริษัทยักษ์ใหญ่ 36 บริษัทจากบริษัทยักษ์ใหญ่ 500 บริษัทจากการสำรวจของฟอร์จูน โกลบัล 500 (Fortune Global 500) อีกด้วย โดยเฉพาะย่านธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป ลา เดฟองซ์ ทั้งยังเป็นที่จัดงานนิทรรศการต่างๆ ซึ่งรวมถึงสหประชาชาติ ฯลฯ ปารีสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังแห่งหนึ่งในโลก โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 30 ล้านคนต่อปี กรุงปารีสเป็นหนึ่งใน 4 นครสำคัญของโลก อีกสามนครคือ ลอนดอน, โตเกียว และ นิวยอร์ก

กำเนิดของชื่อและความหมาย ปารีส
คำว่า ปารีส ออกเสียง พาริส ในภาษาอังกฤษ และ ปารี ในภาษาฝรั่งเศส เป็นคำที่มาจากชื่อเผ่าหนึ่งของชาวโกล เป็นที่รู้จักกันในนาม “ปารีซี” ซึ่งเป็นชาวเมืองที่อาศัยในสมัยก่อนโรมัน โดยที่เมืองมีชื่อเดิมว่า “ลูเทเชีย” ในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 1 ถึง 6 ในช่วงที่อาณาจักรโรมันยึดครอง แต่ในช่วงการครองราชย์ของจูเลียน ดิ อโพสเทต (พ.ศ. 904 – พ.ศ. 906) ได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น “ปารีส”
ปารีสมีชื่อเล่นมากมาย แต่ชื่อที่โด่งดังที่สุดคือ “นครแห่งแสงไฟ” ซึ่งหมายความว่าเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนและความรู้ ทั้งยังหมายความว่าเป็นเมืองที่สว่างไสวเต็มไปด้วยแสงไฟอีกด้วย ตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา นครปารีสมีชื่อเรียกในภาษาแสลงว่า”ปานาม” เช่น ชาวปารีสมักแนะนำตนเองว่า “มัว, เชอซุยเดอปานาม” (ฝรั่งเศส: Moi, je suis de Paname) หรือ “ฉันมาจากปานาม”
พลเมืองชาวปารีสเป็นที่รู้จักกันในนาม “ปารีเซียน” (Parisian) (“พาริเซิน” หรือ “แพริเซิน” ในภาษาอังกฤษ หรือ “ปารีเซียง” ในภาษาฝรั่งเศส โดยคำนี้ บางครั้งจะถูกเรียกอย่างดูถูกว่า ปารีโก (Parigots) โดยประชาชนที่อาศัยนอกแคว้นของปารีส แม้ว่าบางครั้งชาวปารีเซียงจะชอบพอกับคำนี้ก็ตาม